ห้องเรียนผู้กล้า

โค้ก-เทอดศักดิ์ ขจรบุญ เป็นอีกตัวอย่างของครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีทั้งปริญญาตรี และปริญญาโท จากคณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมประสบการณ์การทำงานหลากหลายกว่า 10 ปี ทั้งเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย เป็นครูในโรงเรียนทางเลือก หรือแม้กระทั่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่โรงพยาบาลศิริราช แต่สุดท้ายโค้กก็ยังเลือกที่จะมาร่วมโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 8 โดยปัจจุบันนั้นทำการสอนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ที่โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม จังหวัดเชียงราย

ที่จริงแล้วโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีแค่นักศึกษาจบใหม่ที่มาเข้าร่วมโครงการเท่านั้น โค้ก-เทอดศักดิ์ ขจรบุญ เป็นอีกตัวอย่างของครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงที่มีทั้งปริญญาตรี และปริญญาโท จากคณะวิทยาศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พร้อมประสบการณ์การทำงานหลากหลายกว่า 10 ปี ทั้งเป็นอาจารย์พิเศษในมหาวิทยาลัย เป็นครูในโรงเรียนทางเลือก หรือแม้กระทั่งเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่โรงพยาบาลศิริราช แต่สุดท้ายโค้กก็ยังเลือกที่จะมาร่วมโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 8 โดยปัจจุบันนั้นทำการสอนวิชาคณิตศาสตร์อยู่ที่โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม จังหวัดเชียงราย

บทเรียน ทักษะ และกำลังใจ

โค้กเล่าว่าถึงแม้จะเคยทำการสอนมามากมายแต่เขายังไม่เคยสอนในโรงเรียนที่มีบริบทท้าทาย ซึ่งถือว่าเป็นโรงเรียนส่วนใหญ่ของประเทศ ทำให้โค้กเกิดความสงสัยว่าการเป็นครูในโรงเรียนเหล่านี้นั้นจะเป็นอย่างไร และต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง ซึ่งโค้กค้นพบว่าทักษะหลายอย่างที่ได้จากคณะวิทยาศาสตร์นั้นมีประโยชน์มากต่อการเป็นครูผู้นำฯ ไม่ว่าจะเป็นทักษะการคิด การวางแผน การใช้เหตุผล และการตั้งคำถาม แต่เมื่อมาเจอบริบทจริงในโรงเรียน โค้กก็พบว่าเขาได้เรียนรู้ทักษะอื่นๆเพิ่มเติมอีกด้วย เช่นทักษะการฟัง และการสังเกตพฤติกรรมของคนรอบข้าง เพราะเป็นสิ่งต้องทำเพื่อช่วยในการพัฒนานักเรียนและห้องเรียน ส่วนทักษะการวางแผนที่มีอยู่แล้วนั้น โค้กก็ได้พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น เพราะโค้กจะเขียนแผนการสอนทุกครั้งอย่างละเอียด จนเข้าใจว่าเป้าหมายของแต่ละคาบคืออะไร ในคาบนั้นควรจะต้องสังเกตอะไรในตัวนักเรียน และพฤติกรรมต่างๆของนักเรียนยังอยู่ในขอบเขตที่ต้องการหรือไม่

กล้าคิด กล้าทำ กล้าเปลี่ยนตัวเอง

นอกเหนือจากทักษะที่โค้กได้เรียนรู้จากการเป็นครูผู้นำฯแล้วนั้น โค้กได้อีก 2 บทเรียนสำคัญจากการประสบการณ์ในโรงเรียน อย่างแรกคือโค้กได้เข้าใจว่าหลายๆครั้ง ระบบ โครงสร้างวัฒนธรรม และสังคม เช่น การมีเกรด มีเกณฑ์ตัดสิน มีนิยามว่าถูกคืออะไร ผิดคืออะไร เป็นการทำให้นักเรียนเกิดความกลัวที่จะริเริ่มลงมือทำ โค้กเล่าว่า “ความกลัวเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่ได้ทำ พอไม่ได้ทำก็ไม่เกิดการเรียนรู้ แล้วเด็กในห้องก็เป็นแบบนี้ เด็กไม่กล้าคิด ไม่กล้าเขียน ต้องรอครู” และโค้กก็ได้ค้นพบว่าไม่ใช่แค่ตัวนักเรียนเองที่มีความกลัว แต่ตัวเขาเองก็มีความกลัว เช่นกัน แต่การมาเข้าร่วมโครงการนี้ โค้กได้เรียนรู้ที่จะกล้าทดลองทำ จนก้าวข้ามความกลัวของตนเอง และโค้กได้เรียนรู้ว่าต้องกล้าที่จะเริ่ม เพราะหากไม่อย่างนั้นก็จะไม่ได้ทำอะไรสักอย่างเลยในชีวิต

อีกบทเรียนสำคัญที่โค้กได้เรียนรู้จากการเป็นครูผู้นำฯคือการเปลี่ยนทัศนคติของตัวเองต่อปัญหาตรงหน้า โค้กอธิบายว่า “แต่ก่อนเรามองว่าทุกอย่างเป็นปัญหา แต่ตอนนี้ได้เรียนรู้ว่ามันเป็นปัญหาเพราะเราไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเราคือหาข้อเท็จจริง เข้าใจที่มาที่ไป เช่นว่าเด็กที่โดดเรียนก็ต้องหาว่าเพราะอะไร ไปคุยกับพ่อแม่เค้าจนเข้าใจ ซึ่งพอเข้าใจ มันทำให้เรามองเค้าไม่เหมือนเดิม ไม่ได้มองเค้าเป็นปัญหา … เด็กไม่ได้เปลี่ยน แค่ความคิดที่เรามีต่อเค้ามันเปลี่ยน แล้วมันทำให้เราทำงานได้อย่างมีความสุขขึ้น” 

ความสุขของการเป็นครูนั้น มักจะมาจากเรื่องเล็กน้อย ซึ่งโค้กก็เป็นครูอีกคนหนึ่งที่ความสุขกับหลายๆเรื่องเล็กน้อยของนักเรียนของเขา โค้กเล่าว่าเขาพยายามปลูกฝังตลอดมาว่า ห้องเรียนคือพื้นที่ให้ฝึกฝน ให้ลองผิดลองถูก “ผมเปิดพื้นที่ให้เค้าเห็นว่ามันมีความคิดแบบนี้ได้ ทำแบบนี้ได้ ผมพยายามทำให้เด็กไม่กลัว ทำให้เค้าเห็นว่าตอบผิดได้ ทำให้เห็นว่าคนตอบผิดมีคุณค่ายังไง คนตอบถูกมีคุณค่ายังไง เราไม่ได้มองว่ามันผิดหรือถูก เรามองมันเป็นความคิดเห็น” ซึ่งเด็กๆของเขาก็ได้ซึมซับแนวคิดนี้จนมีพัฒนาการอย่างชัดเจน หนึ่งในนักเรียนของเขา ผู้ซึ่งเริ่มต้นด้วยความกลัว กลับกลายเป็นเด็กที่กล้ายกมือตอบ กล้าเดินออกมาเขียนกระดานหน้าห้อง “ก็ทำไปซิ ก็แค่ลงมือทำ ได้ไม่ได้ก็อีกเรื่องนึง” โค้กบังเอิญได้ยินนักเรียนของเขาคุยกับเพื่อน ซึ่งแม้จะเป็นเพียงประโยคธรรมดา แต่โค้กกลับจำได้ขึ้นใจ เพราะมันแสดงออกนึกทัศนคติของนักเรียนที่ได้เปลี่ยนไปอย่างชัดเจน

สร้างความร่วมมือนอกรั้วโรงเรียน

บทบาทของครูผู้นำฯ ไม่ได้มีขอบเขตอยู่เพียงแค่ในโรงเรียนเท่านั้น เพราะชุมชน โดยเฉพาะผู้ปกครองถือเป็นตัวแปรสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาการศึกษาอย่างยั่งยืน ซึ่งโค้กเข้าใจถึงประเด็นนี้อย่างดี และมีความพยายามที่จะสร้างวิสัยทัศน์ร่วม หรือ Collective Vision ในหมู่ปกครอง โดยโค้กอยากให้โรงเรียนเป็นพื้นที่ให้ผู้ใหญ่ได้แลกเปลี่ยน และสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจตรงกันถึงบทบาทและหน้าที่ของตนในการผลักดันการศึกษาที่เหมาะกับลูกหลานในชุมชน ซึ่งโค้กอยู่ในระหว่างการเขียนแผนงานเพื่อนำเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน โดยโค้กมีเป้าหมายที่อยากจะจัดกิจกรรมสร้างวิสัยทัศน์ร่วมที่โรงเรียนบ้านแซววิทยาคมก่อนจบโครงการ

เส้นทางอาชีพเปิดกว้างสำหรับครูผู้นำฯ

เมื่อจบโครงการแล้ว มีหลากหลายเส้นทางอาชีพที่โค้กสนใจ เช่น การหาความรู้ด้านโปรแกรมเมอร์เพิ่มเติม เพื่อนำความรู้ใหม่มาควบรวมกับความถนัดส่วนตัวในการออกแบบห้องเรียนและอาจเกิดเป็นนวัตกรรมในการพัฒนาการศึกษา หรือ การเป็นโค้ชกรีฑาเพื่อช่วยให้ความรู้ และช่วยให้ครูพละเห็นความสำคัญของวิชาพละ ซึ่งเป็นวิชาที่สอนให้นักเรียนเข้าใจการเคลื่อนไหวแบบต่างๆ พร้อมมีพื้นฐานในการเล่นกีฬา จนเติบโตไปเป็นคนที่รักการออกกำลังกาย ฉะนั้นในมุมมองของโค้กบทบาทที่จะช่วยพัฒนาครูพละจึงมีความสำคัญ เพราะครูพละสามารถสร้างพลเมืองที่มีสุขภาพแข็งแรง ซึ่งหากมองในภาพใหญ่แล้ว ครูพละสามารถเป็นจุดเริ่มต้นในการลดภาระทางด้านสาธารณสุขของประเทศได้เลยทีเดียว

ความรู้มีมูลค่าเกินกว่าจะมานั่งตีราคา

โค้กมองว่าจุดเด่นของโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลงคือการเปิดพื้นที่ให้ทดลอง ซึ่งไม่มีที่ไหนที่จะเปิดโอกาสเช่นนี้ ส่วนคนที่เรียนสายวิทยาศาสตร์มานั้น โค้กมองว่าการมาร่วมโครงการจะสร้างความเข้าใจทางด้านสังคมศาสตร์ มนุษยศาสตร์มากขึ้น “มันทำให้เราละเอียดอ่อน มันทำให้เราเข้าใจตัวเอง เช่น พอเจอปัญหากับนักเรียน ผมจะกลับมาคุยกับตัวเองว่าเราทำอะไรได้อีก เราต้องทำอะไรเพิ่ม เราต้องเปลี่ยนวิธีคิดและมุมมองของตัวเอง แล้วมันทำให้เราโตขึ้น เรียนหนังสือเราโตแค่ในแง่วิชาการ แต่การที่เรามาทำตรงนี้มันทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้น เชื่อในตัวเองมากขึ้น เห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น” 


และในฐานะคนที่มีประสบการณ์การทำงานมากว่าสิบปี โค้กจึงฝากส่งท้ายว่า “ความรู้มันมีมูลค่าที่นับไม่ได้ พอมาอยู่ที่นี่ผมรู้สึกว่าเราไม่รู้อะไรเลย ผมเลยได้เรียนรู้เยอะมาก พัฒนาตัวเองได้เยอะมาก ผมว่ามันคุ้ม”

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับการเปลี่ยนแปลงอนาคตการศึกษาไทย นักเรียนไทยนับร้อยและตัวคุณ ผ่าน ‘โครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง’ เป็นระยะเวลา 2 ปี ผ่านการสอน และ ทำงานร่วมกับเครือข่าย โรงเรียน ชุมชน ผู้ปกครอง 

สมัครได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่…https://tft-fellowship.org