ความสำเร็จเริ่มจากเปลี่ยนคนหนึ่งคน

“หลายคนอาจตั้งความหวัง อยากเปลี่ยนแปลงภาพใหญ่ แต่เราแค่อยากเปลี่ยนแปลงเด็กให้ได้อย่างน้อย 1 คน การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา ถ้าเราสามารถเปลี่ยนได้สัก 1 คนก็ถือว่าสำเร็จแล้ว” นี่คือคำตอบจากธาม ณัฐชนน โรจน์วัลลี ศิษย์เก่าโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง รุ่นที่ 6 เมื่อถูกถามว่า ในการสมัครเข้ามาในโครงการนี้ เขาคาดหวังอะไร

     และเมื่อถามต่อว่า เขาได้ทำตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ไหม ธามตอบว่า

     “ได้ทำเกินความคาดหมาย โรงเรียนเก้าเลี้ยววิทยาที่ผมสอนอยู่เป็นโรงเรียนขนาดกลาง และเป็นที่ที่เรียกว่า โรงเรียนตะแกรง เพราะเด็กที่เก่งและมีกำลังทรัพย์จะเข้าไปเรียนในตัวเมืองหมด ตอนเข้ามาทำที่นี่ก็มีความท้าทายมาก  ที่บอกว่าเหนือความคาดหมายคือ จริงๆ อยากเปลี่ยนเด็กให้ได้แค่ 1-2 คน แต่พอเข้าไปอยู่ ทำให้รู้ว่า นอกเหนือจากการสอนแล้ว เรายังได้ปลูกต้นกล้าในใจเด็ก  ในวันที่ออกจากโรงเรียน มีเด็กหลายคนเดินเข้ามาบอกว่าเกือบหลุดออกจากระบบการศึกษา แต่ครูธามทำให้มีแรงบันดาลใจเรียนต่อ”

     ในระหว่างเป็นครูผู้นำการเปลี่ยนแปลง ผลกระทบที่โดดเด่นที่ธามได้สร้าง ก็คือทำให้ในปีหนึ่ง ไม่มีนักเรียนในชั้นเรียนของเขาติดศูนย์ ติด ร. เลย

     “ในการทำแบบนี้ ต้องมีการปรับทัศนคตินักเรียน ทำงานร่วมกับครูประจำชั้น ทำให้ห้องเรียนเป็นพื้นที่ปลอดภัย”

     “ผมได้ทำงานร่วมกับเพื่อนครูผู้นำฯ อีก 2 คน คือ ครูมด และครูกวาง ที่มีวีธีทำงานและทัศนคติใกล้เคียงกัน ออกแบบกิจกรรมร่วมกัน เป็นลักษณะของเกมผ่านด่าน เช่น ในแต่ละคาบ จะมีการกำหนดภารกิจ ทั้งในเชิงวิชาการ และเชิงพฤติกรรม ถ้านักเรียนทำได้ตามเป้าหมายก็จะได้สะสมดาว”

     มีห้องเรียนเข้าร่วมกิจกรรมนี้มากกว่า 4-7 ห้องต่อเทอม เป็นห้องที่ธามและเพื่อนครูผู้นำฯ ได้สอน

     “นอกจากนักเรียนจะไม่ติดศูนย์ ติด ร. แล้ว ยังมีครูคนอื่นถามถึงวิธีการที่ทำให้สิ่งนี้เป็นไปได้”

     สำหรับธาม การที่มีครูได้รับแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขาทำ ก็ถือเป็นการสร้างผลกระทบเช่นกัน

     “เรารู้ว่าระบบการศึกษามีข้อจำกัด ข้อจำกัดหลายอย่างทำให้ครูในระบบหมดไฟ  พอเราเข้าไปสร้างแรงบันดาลใจให้ครูในโรงเรียน ครูคนอื่นก็มีแรงไปต่อ”

     นอกจากนั้น หลังจากจบโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง 2 ปี ธามยังได้มาทำงานต่อกับ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ในฝ่ายสรรหาและคัดเลือกด้วย

     “พอจบโครงการสองปี เราก็ยังเชื่อใน ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ และพบว่าจริงๆ มีคนอีกมากอยากสร้างการเปลี่ยนแปลง  เราก็ได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือก และโปรโมตภารกิจของ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ด้วย”

     สำหรับธาม ความภูมิใจในระหว่างที่เขาทำงานที่ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ คือการได้ช่วยเหลือนักศึกษาฝึกงานให้ทำโปรเจกต์ต่างๆ ได้สำเร็จ เช่น โปรเจกต์ที่ร่วมกับ Edchange Maker Challenge, SEA Thailand, หมอดี และ แบรนด์ชา Karun

     “สำหรับผมแล้ว ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ เป็นองค์กรที่รวบรวมคนไว้หลากหลาย ถ้าคุณเป็นคนนึงที่มองหาประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้ และอยากลงมือทำ สร้างความเปลี่ยนแปลง ที่นี่ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะคุณจะได้พัฒนาตัวเองเยอะมาก” ธามทิ้งท้าย

     เริ่มจากคน 1 คน นักเรียน 1 คน และห้องเรียน 1 ห้อง ครูผู้นำฯ ของ ทีช ฟอร์ ไทยแลนด์เริ่มสร้างการเปลี่ยนแปลงจากก้าวเล็กๆ ที่นำไปสู่ผลกระทบที่ยิ่งใหญ่ต่อระบบการศึกษาในภาพรวม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะเราเชื่อในความเป็นไปได้และเชื่อว่าสักวันหนึ่ง เด็กไทยทุกคนจะเข้าถึงการศึกษาที่เท่าเทียมและเสมอภาคได้อย่างแท้จริง