หนึ่งวันที่โรงเรียนวัดตะคร้ำเอนกับมูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ และ SC Johnson

ในวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมานั้น SC Johnson ได้เดินทางไปยังโรงเรียนวัดตะคร้ำเอน จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาความเป็นผู้นำของมูลนิธิฯ เพื่อเยี่ยมชมห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยม 1 ของครูน้อง-กนกวรรณ รอดประสิทธิ ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 9

     SC Johnson ถือเป็นพันธมิตรหลักของมูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ ผู้ซึ่งเล็งเห็นถึงความสำคัญของการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาไทยโดยการสร้างเครือข่ายผู้นำผ่านโครงการผู้นำการเปลี่ยนแปลง

     เนื่องจากหลายๆกิจกรรมต้องถูกระงับไปชั่วคราวเพราะการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้มูลนิธิทีช ฟอร์ ไทยแลนด์ไม่รอช้าที่จะชักชวนพันธมิตรของเรามาร่วมสังเกตการสอนวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ของครูผู้นำทันทีที่สถานการณ์ต่างๆได้คลี่คลายลง

     ในวันที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมานั้น SC Johnson ได้เดินทางไปยังโรงเรียนวัดตะคร้ำเอน จังหวัดกาญจนบุรี ร่วมกับเจ้าหน้าที่พัฒนาความเป็นผู้นำของมูลนิธิฯ เพื่อเยี่ยมชมห้องเรียนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยม 1 ของครูน้อง-กนกวรรณ รอดประสิทธิ ครูผู้นำการเปลี่ยนแปลงรุ่น 9 ซึ่งนอกจากจะเห็นได้ผลกระทบที่เกิดขึ้นในห้องเรียนแล้ว ยังเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้พันธมิตรของเราได้เข้าใจว่าประสบการณ์ ความรู้ และทักษะ จากการเข้าร่วมโครงการจะส่งผลต่อเส้นทางอาชีพของครูผู้นำฯ ในการสร้างผลกระทบต่อการศึกษาต่อไปอย่างไร

     เนื่องจากนักเรียนส่วนใหญ่ที่โรงเรียนวัดตะคร้ำเอนนั้นจะอาศัยอยู่กับพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว หรือปู่ ย่า ตา ยาย ผู้ซึ่งมีภาระหน้าที่เหลือล้นจนอาจจะละเลยเรื่องการศึกษาของลูกหลานเป็นครั้งคราว ทำให้ครูในโรงเรียนจะต้องปฏิบัติหน้าที่มากมายนอกเหนือจากแค่การสอนในห้องเรียน การเยี่ยมบ้านจึงกลายเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมากในการช่วยให้ครูเข้าใจว่าปัญหาที่นักเรียนพบเจอที่บ้านคืออะไร ปัญหาเหล่านี้นั้นส่งผลกระทบต่อการเรียนอย่างไร และ ครูจะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ของนักเรียนได้อย่างไร เพื่อให้เกิดผลที่ดีที่สุดต่อทั้งวิชาการ ร่างกาย และจิตใจของนักเรียน ปัญหาที่ครูผู้นำฯ ได้พบเจอนั้นมีได้ตั้งแต่ว่าจะทำอย่างไรให้เด็กมีวิจารณญาณในการคิดวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับในยุคสมัยที่การเข้าถึงข้อมูลนั้นเปิดกว้างอย่างมาก ไปจนถึงปัญหานักเรียนที่ออกกลางคันตามผู้ปกครองที่ต้องย้ายถิ่นจนต้องเรียนซ้ำไปซ้ำมา ทำให้มีนักเรียนที่กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.1 ที่มีอายุถึง 18 ปี จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ครูผู้นำฯ จะได้มุมมองใหม่ๆ และความแข็งแกร่งเกินร้อยจากการที่จะต้องอยู่และแก้ไขปัญหาเหล่านี้เป็นชีวิตประจำเป็นเวลา 2 ปีเต็ม

     การที่ได้รับฟังและเข้าใจถึงความท้าทายจากปากของครูผู้นำฯ และการได้เห็นสภาพความเห็นอยู่และบริบทอันท้าทายของนักเรียนด้วยตา ถือเป็นประสบการณ์ที่สร้างแรงบันดาลใจอย่างแท้จริง แม้จะเป็นเพียงหนึ่งวันสั้นๆ แต่จะเป็นหนึ่งวันที่จะน่าจดจำสำหรับหลายๆ คน ที่ถึงแม้จะก้าวขาออกมาจากรั้วโรงเรียนแล้ว แต่ในหัวใจยังเต็มไปด้วยความต้องการ… ต้องการที่จะทำมากกว่าเดิม ต้องการที่จะช่วยเหลือมากกว่าเดิม